ณ วันนี้ (14 ก.ย. 2022) ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่มีไกด์ได้แล้วนะ~ ฉะนั้น ไม่ต้อง ‘คิด(แต่ไม่)ถึง’ ญี่ปุ่นอีกต่อไป เตรียมจองตั๋ว จัดกระเป๋า แล้วไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัยกันเลยดีกว่า ว่าแต่ถ้าไปช่วงนี้! ญี่ปุ่นมีอะไรเด็ดๆ ที่รอให้พวกเราได้ไปสัมผัสบ้างนะ? 

ญี่ปุ่น เดือนกันยายน - พฤจิกายน ชวนฟินไปกับใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn)

อย่างที่หลายคนรู้ดีว่า ‘ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี’ เพราะแต่ละฤดูก็จะมีของดี ของเด็ดแตกต่างกันไป มีทั้งเทศกาลดอกไม้ไฟ ชมดอกซากุระบาน มีหิมะให้เล่นสกี แต่ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้ ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลายอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกัน เพราะ ‘มัน ฟิน มาก!’ อากาศก็เย็นกำลังดี วิวรอบข้างก็สวยเป็นใบไม้สีเขียวปนส้ม โพสต์รูปแต่ละที เรียกยอดกระฉูดแน่ๆ   

ดังนั้น ฤกษ์ดีแบบนี้ AKARA ISE ก็อยากชวนทุกคนมาปักหมุด 5 พิกัดที่เที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ ว่าจะมีที่ไหนสวยปังบ้าง และแต่ละที่มี Highlight อะไรที่ซ่อนอยู่ไหม? รับรองเลยว่าถ้าอ่านจบแล้ว เพื่อนๆ จะต้องอยากส่งข้อความไปชวนชาวแก๊งแน่นอน! 

“ณ กลางเดือนกันยายน ปี 2022 นี้ไปญี่ปุ่นได้หรือยัง?”    

Update - ไปเที่ยวญี่ปุ่นได้หรือยัง? ตอนนี้ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ล่าสุด ณ วันนี้ (14 ก.ย. 2022) ญี่ปุ่นเปิดประเทศมากขึ้น โดยผ่อนปรนนโยบายต่างๆ จากเดิมรับจำนวนนักท่องเที่ยววันละ 20,000 คน เป็น 50,000 คน โดยไม่จำเป็นต้องมีไกด์และไม่ต้องแสดงเอกสารรับรองผลตรวจ RT-PCR ได้แล้ว แต่ยังต้องทำเรื่องผ่านบริษัทไกด์ทัวร์ ตามเกณฑ์ที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด เช่น การทำวีซ่านักท่องเที่ยว และซื้อประกันสุขภาพ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ไปเที่ยวได้ง่ายขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่ว่ายังต้องทำเรื่องผ่านทางบริษัทไกด์ทัวร์นั้นเอง!

โอเค เข้าใจเรื่องนี้แล้ว งั้นตอนนี้เราไปจดลิสต์ 5 พิกัดที่เที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันเล้ยยยย~

พิกัดที่ 1 : ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เมืองยามานาชิ 

Kawaguchiko Lake, Yamanashi

พิกัดแรก ที่เราอยากให้ทุกคนจดไว้เป็น สถานที่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เลยก็คือ “ทะเลสาบคาวากุจิโกะ” ที่ตั้งอยู่ในเมืองยามานาชิ (Yamanashi) ใกล้ๆ กับเมืองโตเกียว (Tokyo) เพราะที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มตัดกับสีฟ้าขาวของผืนน้ำและภูเขาไฟ ยิ่งสวยขึ้นแบบ x100 ไปเลยยย~ 

พิกัดที่ 2 : วัดไดโกจิ เมืองเกียวโต

Daigoji Temple, Kyoto

ไปต่อกันที่ “วัดไดโกจิ” วัดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต มีความสวยงาม และเก่าแก่จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เลยทีเดียว ซึ่งในวัดไดโกจิจะมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่นกับนักท่องเที่ยวอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อนๆ จะได้ชมเห็นภาพศาลาสีแดงที่ตั้งอยู่กลางน้ำ รายล้อมไปด้วยใบเมเปิ้ลสีส้มแดง เรียกได้ว่าสวยซะจนนึกว่าภาพตรงหน้าเป็นภาพวาดเลยทีเดียว 

พิกัดที่ 3 : สวนสาธารณะนารา เมืองนารา  

Nara Park, Nara

ถัดมาก็คือ “สวนสาธารณะนารา” สวนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองนารา ใกล้ๆ กับเมืองโอซาก้า ถ้ามองเผินๆ ที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ชื่อดังมากมาย แถมยังมีไฮไลท์เด็ดที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องร้อง “งู้ยยยย~” ออกมาเลย นั่นก็คือฝูงกวางที่ใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ ที่นี่จึงกลายเป็น Landmark ของเมืองนาราที่รอให้นักท่องเที่ยวมาป้อนอาหารน้องกวางอย่างใกล้ชิด ไปพร้อมกับการชมความสวยงามของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี และร่วงโรยเป็นถนนสีส้มให้ทุกคนได้เดิน

พิกัดที่ 4 : โอบาระ เมืองไอจิ 

Obara District, Aichi

เคยไหม? ซากุระก็อยากดู ใบไม้เปลี่ยนสีก็อยากเห็น แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ดันเกิดขึ้นคนละฤดูกาล แต่ปัญหานี้จะหมดไป เพราะที่ “เขตโอบาระ เมืองไอจิ” รวมความปังทั้ง 2 แบบมาให้จบในที่เดียวเลย เพราะที่เขตโอบาระนี้มีซากุระสายพันธุ์ Shikizakura ที่สวยมากกก โดยจะบานปีละ 2 รอบ นั่นก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง ทำให้เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ต้นซากุระกว่า 1,200 ต้น และต้นเมเปิ้ลกว่า 4,000 จะแข่งกันสร้างสีสันชมพูสลับส้มปกคลุมบริเวณนี้ และกลายเป็นภาพในฝันของนักท่องเที่ยวที่อยากดูซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสีในเวลาเดียว  

พิกัดที่ 5 : น้ำตกเคงอน เมืองโทจิงิ  

Kegon Falls, Tochigi

ปิดท้ายกันด้วย “น้ำตกเคงอน” น้ำตกที่ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ มีความสูงกว่า 100 เมตร และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเลย ซึ่งช่วงเวลาชาวญี่ปุ่น Recommended ให้นักท่องเที่ยวไปชมความสวยงามของที่นี่ก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเพื่อนๆ จะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบ 360 องศา พร้อมกับยืนฟังเสียงน้ำตกเพลินๆ นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว ที่นี่ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย เพราะน้ำที่ไหลจะมีความแข็งตัวเล็กน้อย จึงเป็นภาพที่สวยสะดุดตาไปอีกแบบ

ทั้ง 5 พิกัดในญี่ปุ่นที่เราคัดมาฝาก เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยๆ แบบ แค่เห็นรูปก็อยากไปญี่ปุ่นเลยใช่ไหมคะ? แถมที่ญี่ปุ่นเอง ก็ยังมีเรื่องของอาหารที่ก็โดดเด่นไม่แพ้ชาติไหนในโลกอีกด้วย

ยังไม่พร้อมเที่ยวจริง!  ก็มาฟินไปกับ MORI-TAMA ก่อนได้!

รวม 7 เมนูจากไข่ไก่โมริทามะ

ส่วนคนที่ยังไม่พร้อมเที่ยวตอนนี้ แต่อยากฟินเหมือนไปญี่ปุ่นบ้าง! ก็สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นในไทย ด้วยอาหารญี่ปุ่น ที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เหมือนกับที่ญี่ปุ่นได้ง่ายๆ ได้แล้ว กับ ‘MORI-TAMA ไข่ไก่สไตล์ญี่ปุ่น’ 

ภายใต้แบรนด์ AKARA ISE ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง akara group ตัวจริงเรื่องไข่ไก่ในไทย และ ISE Food, INC ผู้นำด้านไข่ไก่อันดับ 1 ในญี่ปุ่น และผลิตด้วยระบบ ISE Integration (อิเสะ อินทิเกรชัน) แบบเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ไข่ไก่ทุกฟองผ่านการล้างทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ Salmonella จัดส่งด้วยรถควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain System) เพื่อให้ไข่ไก่ทุกฟอง ‘ไฮ่ความสดสไตล์ญี่ปุ่น’ แบบเป๊ะๆ

คุณเรียวตะ ชาวญี่ปุ่นชื่อดังทำเมนูแก้คิดถึงบ้าน

หรือจะบิ้วก่อนกับ VDO “เมื่อผู้ชายญี่ปุ่นคิดถึงบ้าน ลองทำอาหารญี่ปุ่นกินเองจะทำได้ไหม ?!” ของคุณ Ryota Moisture แก้คิดถึงญี่ปุ่นกันไปก่อนก็ดี้ดี
👉

เกร็ดความรู้:  เรื่องของกิน ในช่วงนี้ ที่ห้ามพลาด!

ในญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยต่างกันออกไป! เพราะแต่ละฤดูก็จะมีของกินหลากหลาย และอร่อยต่างกันไป แต่จะบอกว่าช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่คนญี่ปุ่นบอกว่ามีของกินอร่อยมากที่สุด! ว่าแต่จะมีอะไรแนะนำบ้าง?ถ้าได้ไปในช่วงใบไม้ร่วง?

• ปลาซัมมะ : เป็นปลาที่อร่อยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นิยมเอามาย่างเกลือแล้วกินกับข้าวสวยร้อนๆ
• เกาลัด : ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูเก็บเกี่ยวเกาลัดพอดี ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมช่วงนี้ร้านขนมในญี่ปุ่นถึงเพิ่มรสเกาลัดขึ้นมาเป็นเมนู Seasonal
• ฟักทอง : ว่ากันว่าฟักทองจากเมือง Hokkaido จะอร่อย และหวานที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง และนิยมนำมาทำเป็นไส้โคโระเกะร้อนๆ ชวนฟิน

สูตรเมนูลับ:  ประจำฤดูใบไม้ร่วง!

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่มีเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น นั่นก็คือ ‘เทมปุระใบเมเปิ้ล (もみじの天ぷら)’ ที่สามารถหาซื้อได้ตามจุดที่มี Street Food เลย คนญี่ปุ่นเขานิยมทำขายเป็นของกินเล่น เพราะทำง่ายที่สุด! เพียงแค่..
     1. นำใบเมเปิ้ลที่ยังสวยเต็มใบมาแช่ในน้ำเกลือก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง แล้วปรุงรสด้วยน้ำมันงาเพิ่มกลิ่นหอม
     2. นำแป้งทอดกรอบผสมกับน้ำเปล่า ปรุงรสเล็กน้อยตามใจชอบ
     3. เช็ดใบเมเปิ้ลให้แห้งแล้วนำมาชุบแป้งให้ทั่วใบ แล้วนำลงทอดในน้ำมันให้สุก แล้วนำขึ้นมาพักไว้ให้เย็นค่อยเสิร์ฟ

📍 หาซื้อไข่ไก่สไตล์ญี่ปุ่น 𝗠𝗢𝗥𝗜-𝗧𝗔𝗠𝗔 ได้ที่: Tops, DONKI MALL, Villa Market, AEON MaxValu, UFM Fuji Super, THE MALL-Gourmet Market (Siam Paragon, Emporium), TAKA Marché (Siam Takashimaya), Lotus's (เฉพาะสาขา), Makro (เฉพาะสาขา) และซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำใกล้บ้านคุณ หรือทางออนไลน์ได้ผ่านทาง Lotus's Shop Online, Freshket และ GrabMart

ขอบคุณข้อมูลจาก : The Standard, MThai, ChillChillJapan, ThaiRath, MaruMaru, MusaNews

กดติดตาม akara ไม่พลาดทุกเรื่องของไข่ไก่
💡 Facebook : https://www.facebook.com/akaragroupTH
💡 Instagram : https://www.instagram.com/akarabrand
💡 YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCACP4vYwPZLgrucq-5mu1zQ
💡 Website : https://www.akaragroup.co.th/akara