คำถามแรกสุดเบสิค แต่สำคัญที่สุด ก็คือ “สุขภาพที่ดีคืออะไร?” และทำไมเราถึงอยากมีสุขภาพดี
โดยในมุมของเรา สุขภาพที่ดี หมายถึง ภาวะที่เรามีสมรรถภาพร่างกายที่ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย รวมถึงมีจิตใจแจ่มใส เบิกบาน ซึ่งปัจจัยแรกที่จะเป็นตัวกำหนดสุขภาพของเรา ก็คือ ‘อาหาร’ เพราะร่างกายของเราจำเป็นต้องพึ่งสารอาหารต่างๆ มาใช้ในการดูแลและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกเหตุผลคือ เพราะมันอร่อย! ทำให้ใจฟู ซึ่งสำคัญในการใช้ชีวิตไม่แพ้กัน
“OK ก็อยากสุขภาพดีนะ แต่…ไม่มีเวลา”
รู้ว่าสุขภาพสำคัญ แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลา จริงไหม? วันนี้ AKARA EGGOLGOY (อัครา เอคโคโลยี) เลยขอผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ แนะนำ 5 วิธีใช้กฎ 80/20 ทำน้อยแต่สุขภาพดี๊ดี! โดยกฏนี้ ถือเป็นหลักการที่ค่อนข้างครอบจักรวาล เข้ากับทุกสถานการณ์ โดยเราคัดวิธีสุดเด็ดมาให้แล้วสำหรับสาย HEALTHY โดยเฉพาะ!
กฏ 80/20 คืออะไร?
กฏ 80/20 คือ หลักการของ ‘วิลเฟรโด พาเรโต’ (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี โดย Pareto พบว่า “80% ของผลลัพธ์ มักมาจากการกระทำหรือตัวแปรเพียงแค่ 20%” หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าโฟกัสถูกจุด ก็จะได้ผลมาก
หัวใจสำคัญของกฏนี้เลย ก็คือ…
“แยกให้ออกว่า อะไรสำคัญ และอะไรไม่สำคัญบ้าง”
ทั้งในเรื่องที่เรากำลังทำอยู่และกำลังจะทำ
เพียงแค่โฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ที่อาจมีสัดส่วนอยู่แค่ 20% จากสิ่งที่เราต้องทำทั้งหมด แต่สิ่งนี้แหละจะส่งผลลัพธ์มากถึง 80% และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ในวงการเศรษฐศาสตร์เท่านั้นที่ใช้กฏนี้ได้ แต่ชาว HEALTHY ที่อยากมีสุขภาพที่ดี ก็ใช้ได้เหมือนกัน!
เอาล่ะ! เรามาเริ่มดูกันเลย กับ “5 วิธีทำน้อยแต่สุขภาพดี๊ดี ด้วยกฏ 80/20” 👇
วิธีที่ 1 : มี CHEAT DAY ได้ 2 ครั้ง/สัปดาห์
เทคนิคแรกคือไม่ยากเลย เพราะเมื่ออาหารเป็นตัวสำคัญในการกำหนดสุขภาพของเรา จึงดีถ้าเราพยายามเลือกกินนอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ว่าจะให้กินคลีนทุกมื้อ ก็อาจจะสุดเกินไปสำหรับหลายๆ คน ฉะนั้น วิธีนี้เราสามารถมี CHEAT DAY (วันที่เราตามใจตัวเอง/กินอะไรก็ได้) ได้ สัก 2 วันต่อสัปดาห์ หรือจะกำหนดวันเลยก็ได้ เช่น ทุกวันพุธและอาทิตย์จะกินอะไรตามใจ ส่วนวันอื่นจะเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- การกินที่ดีต่อสุขภาพ : ก็คือ กินอาหารให้สมดุล ครบ 5 หมู่ และพยายามเลี่ยงพวกที่หวานหรือเค็มเกินไป
- อาหารที่ดีต่อสุขภาพ : อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีโทษ สะอาด ไม่มีสารเจือปน และควรผ่านกระบวนการแปรรูปให้น้อยที่สุด ยิ่งถ้ามาจากธรรมชาติแบบ 100% ก็ยิ่งดีเลย
วิธีที่ 2 : ไม่ต้องโหมออกกำลังกายหนัก แค่วันละ 30 นาทีก็ฟิตได้แล้ว
เทคนิคที่ 2 คือ เรื่องการออกกำลังกาย ว่าตัวเลขขั้นต่ำที่เราจะสุขภาพดี๊ดีได้เนี่ย มันคือกี่นาที? ซึ่งทุกคนก็น่าจะรู้ได้จากหัวข้อแล้ว นั้นคือเราควรออกกำลังกายหรือบริหารร่างกายอย่างน้อย 30 นาที โดยไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก เอาที่พอดีๆ กับร่างกาย
- เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว : เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี
- เพื่อเน้นฟิตรูปร่าง : แนะนำให้เพิ่มเป็น อย่างน้อย 45-60 นาทีต่อวัน และเล่น Weight Training สลับกับ Cardio ควบคู่กันไปเพื่อผลลัพท์ที่ดี
วิธีที่ 3 : อย่านั่งนานๆ ทุกชั่วโมง ให้ลุกมายืดเส้นยืดสายบ้าง
เทคนิคที่ 3 เป็นวิธีที่เราอยากแนะนำให้ชาวออฟฟิศนำไปใช้ที่สุด!!! เพราะเป็นวิธีสุด Simple ที่จะช่วย Save คอ บ่า ไหล่ และหลังของเราได้มากสุดๆ นั่นก็คือ การยืดเหยียดทุกๆ 1 ชั่วโมง หรือการไม่นั่งท่าเดิมติดกันเป็นเวลานานจนเกินไป เพราะมีหลายงานวิจัยเลย อย่าง ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ คาเลโดเนียน แห่งสหราชอาณาจักร เผยว่า การนั่งติดเก้าอี้นานเกินไปทำให้ประโยชน์จากการออกกำลังกายนั้นเสียเปล่า กลับมาที่คำแนะนำ ก็คือ ไม่ว่าเราจะออกกำลังพอ กินดี แค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมที่จะขยับตัว และไม่นั่งนานจนเกินไป นั้นเอง โดยเรามี
- Tip สนุกๆ ที่น่าเอาไปลองใช้กัน ทั้งช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น และคอยเตือนให้เราแบ่งเวลาทำงานและเวลาพักเป็นช่วงๆ นั้นคือ เทคนิค Pomodoro ที่จะแบ่งเวลาเป็น ทำงาน 25 นาที / พัก 5 นาที การทำแบบนี้จะช่วยลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี แถมยังจะทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย
- แนะนำให้โหลด Apps โดยพิมคำว่า Pomodoro จะมีให้เลือกใช้เพียบเลย หรือไม่ก็ใช้ 𝟲𝗪𝗘𝗕𝗦𝗜𝗧𝗘ไปที่อื่นทิพย์ ที่ดีสุดๆ เปิดในคอมระหว่างทำงานได้เลย
วิธีที่ 4 : ทำสมาธิ 10-15 นาทีก่อนนอน ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น
นอกจากเรื่องอาหารจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกับสุขภาพแล้ว ‘การนอน’ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการนอนเป็น Routine ที่สำคัญมากๆ ของร่างกายที่ให้สมองและร่างกายของเราได้พัก หลังจากที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน โดยทั่วไปเราควรจะนอนให้ได้ประมาณ 7-9 ชั่วโมง แต่ว่าบางครั้งปริมาณที่เพียงพอ ก็อาจจะไม่ได้มาคู่กับการนอนหลับที่มีคุณภาพเสมอไป
เทคนิคที่ 4 จะเป็นเรื่องการนอนดี วิธีนั้นง่ายๆ เพียงแค่เพื่อนๆ ใช้เวลาช่วงก่อนนอน ผ่อนคลายร่างกายก่อนเข้านอน โดยหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดก็คือการทำสมาธิ ระยะเวลาอาจจะเริ่มจากทีละน้อยๆ หรือทำสัก 10-15 นาทีก็ได้
- การทำสมาธิ ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการนั่งขัดสมาธิเสมอไป เราจะใช้เป็นการสวดมนต์ เปิดเสียงดนตรีเบาๆ หรืออ่านหนังสือที่เบาสมองก็ยังได้ สำคัญแค่สิ่งนั้นทำให้เราผ่อนคลายได้ก็พอแล้ว
วิธีที่ 5 : เริ่มต้นกินมัง ไม่ได้มีแบบเดียว และไม่ต้องกินทุกมื้อก็ได้
เทคนิคที่ 5 อันสุดท้ายนี้ จริงๆ ทุกคนน่าจะพอทราบดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราแค่อยากจะย้ำว่า บางทีเราไม่ต้องเป๊ะ ไปทุกอย่างก็ได้ คือแน่นอนว่าถ้าทำได้ 100% มันก็ดี แต่ว่าอาจจะไม่มีแบบไหนที่เหมาะกับทุกคน ที่มีความแตกต่างกัน จนบางครั้งมันก็อาจจะทำให้เราตึงและเครียดจนเกินไป ฉะนั้น สำหรับคนที่อยากลดเนื้อสัตว์ลงไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม อาจจะลองเริ่มกินมังแบบ Flexitarian : ที่กินได้ทุกอย่าง แต่เน้นกินพืชผักผลไม้ (Plant-based) และลดเนื้อสัตว์ลง ดูก่อนก็ได้
ใครที่อยากลองกินมังสวิรัติดู ช่วงเริ่มต้นอาจะเริ่มด้วยการกินมังฯ วันละ 1 มื้อก่อน หรือ ค่อยๆ เน้นกินพืชผักผลไม้ ลดเนื้อสัตว์ให้น้อยลงได้ ทั้งเพื่อให้เราเองชิน รวมถึงระบบต่างๆ ในร่างกาย เมื่อร่างกายและจิตใจเริ่มคุ้นเคยแล้ว ก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนมื้อได้
- หรือจะลองเลือกการกินมังแบบที่เข้ากับตัวเรามากที่สุด ที่มีอย่างน้อย 6 แบบ ที่นี่
ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 วิธีดูแลสุขภาพที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองเอาไปปรับใช้กันดู
และแถมด้วยการแนะนำวัตถุดิบสุดปังให้ชาว Healthy ได้รู้จัก เพื่อสุขภาพที่ปังยิ่งกว่าเดิม!
AKARA EGGOLOGY ไข่ไก่ที่ตอบโจทย์ได้ทุก Lifestyle!
💚 𝗔𝗞𝗔𝗥𝗔 𝗘𝗚𝗚𝗢𝗟𝗢𝗚𝗬 ไข่ไก่ FEEL GOOD ครบคุณค่าทุกฟอง 💚 แบรนด์ไข่ไก่สายสุขภาพจาก akara
มีไข่ไก่ให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกัน ดังนี้…
🌱 ไข่ไก่ ‘สาย Natural’ ส่งเสริมการเลี้ยงแม่ไก่ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare)
- ไข่ไก่ ORGANIC : แม่ไก่อารมณ์ดี ได้รับอาหารออร์แกนิค 100% ได้วิ่ง เล่น อย่างอิสระ
- ไข่ไก่ FREE RANGE : แม่ไก่เลี้ยงแบบให้วิ่งเล่นอย่างอิสระ ท่ามกลางทุ่งนอกโรงเรือน อารมณ์ดี้ดี
- ไข่ไก่ CAGE FREE : แม่ไก่ที่เลี้ยงแบบอิสระ ในโรงเรือนระบบปิด ไม่ขังกรง
✨ ไข่ไก่ ‘สาย Nutrition’ อุดมไปด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์
- ไข่ไก่ OMEGA3 & VITAMIN E : แม่ไก่เลี้ยงด้วยอาหารสูตรพิเศษ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านไข่ไก่โดยเฉพาะ
- ไข่ไก่ VEGGIE : แม่ไก่เลี้ยงด้วยอาหารมังสวิรัติ ปราศจากเนื้อสัตว์ มีวิตามิน ตอบโจทย์สายสุขภาพ
พร้อมการรับรองมาตรฐาน
*ไข่ไก่ ORGANIC ผ่านการรับรอง ‘ตรา Organic Thailand ระบบการผลิตปศุสัตว์อินทรีย์’ โดยกรมปศุสัตว์
*ไข่ไก่ CAGE FREE ผ่านการรับรอง ‘ตรา Cage-free DLD ไก่ไข่แบบไม่ใช้กรง’ โดยกรมปศุสัตว์
* ไข่ไก่ CAGE FREE, ไข่ไก่ OMEGA3 & VITAMIN E, ไข่ไก่ VEGGIE ผ่านการรับรอง ‘ตรา Q ไข่ไก่อนามัย’ โดยกรมปศุสัตว์
เลี้ยงแม่ไก่ให้ ‘FEEL GOOD’ อย่างไร?
AKARA EGGOLOGY มีสินค้า ‘ไข่ไก่ สาย Natural’ ที่เน้นเรื่อง ส่งเสริมการเลี้ยงแม่ไก่ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ให้แม่ไก่มีสุขภาพดี ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ รวมถึงได้รับอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสวัสดิภาพหรือความเป็นอยู่ของแม่ไก่ รวมถึงได้ไข่ไก่ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย
แม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ
“🚙 แวะไปชมความอิสระของแม่ไก่ 𝗙𝗘𝗘𝗟𝗚𝗢𝗢𝗗 ที่ฟาร์มกัน 🚙”
กับ อาสาพาไปหลง คุณว่านไฉ & คุณอาย กมลเนตร
คลิก
เพราะ… AKARA EGGOLOGY รักทั้งแม่ไก่ คนกิน และโลก
ไข่ไก่ ORGANIC 100%
นอกจากนี้ AKARA EGGOLOGY ไม่ได้ใส่ใจแค่เพียงสวัสดิภาพของแม่ไก่ และสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของโลก (สิ่งแวดล้อม) อีกด้วย เราจึงเลือกวัสดุที่รีไซเคิลได้ง่าย อย่างกระดาษมาผลิตเป็น Packaging เพื่อลดการใช้พลาสติกอย่างไม่จำเป็น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จัก AKARA EGGOLOGY ไปคู่กับการดูแลตัวเองด้วย 5 วิธีทำน้อยแต่สุขภาพดี้ดีที่เราคัดมาฝากเพื่อนๆ กัน เพราะเราเชื่อว่า ‘การมีสุขภาพที่ดี’ คือ ของขวัญที่ดีที่สุด
📍 หาซื้อไข่ไก่ 𝗔𝗞𝗔𝗥𝗔 𝗘𝗚𝗚𝗢𝗟𝗢𝗚𝗬 ได้ที่: Lotus's, Big C, Tops, THE MALL-Gourmet Market, Villa Market, AEON MaxValu, UFM Fuji Super และซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำใกล้บ้านคุณ หรือทางออนไลน์ได้ผ่านทาง Lotus's Shop Online, Tops Online, Gourmet Market Thailand, Freshket, GrabMart และ Happy Fresh
ขอบคุณข้อมูลจาก : , , GQ, Medium, MangoZero
กดติดตาม akara ไม่พลาดทุกเรื่องของไข่ไก่
💡 Facebook : https://www.facebook.com/akaragroupTH
💡 Instagram : https://www.instagram.com/akarabrand
💡 YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCACP4vYwPZLgrucq-5mu1zQ
💡 Website : https://www.akaragroup.co.th/akara